มฤตยู "ดาวแห่งเภทภัย" พิธีกรรมการไหว้รับดาวมฤตยู
ตอนที่แล้วว่าถึงเรื่องดาวมฤตยูทางโหราศาสตร์ไปแล้ว ถ้าไม่พูดเรื่องพิธีกรรมการไหว้รับดาว คงจะไม่ครบถ้วน เพราะเป็นคำถามและข้อสนทนาได้เสมอว่า...การไหว้รับดาวแล้วจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นจริงไหม? ไหว้แล้วช่วยสะเดาะเคราะห์แก้กรรมได้จริงหรือเปล่า? จะได้ผลอย่างที่ชวนเชื่อกันไหม? สำหรับดาวมฤตยูนี่ แค่ชื่อไม่คิดคงไม่ได้แล้ว.!!! เพราะดาวมฤตยู (O) ได้ชื่อว่า..."เป็นดาวแห่งความตาย และเภทภัย"
• เรื่องพิธีกรรมไสยศาสตร์ ว่าไปแล้วไม่ใช่หลักธรรมแห่งพระพุทธศาสนา ด้วยพระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ แต่เป็นกิจกรรมของศาสนาพราหมณ์ ที่มีมาก่อนเกิดพระพุทธศาสนา เมื่อพุทธศาสนาเริ่มแพร่หลายก็ย่อมมีพราหมณ์บางส่วนเข้ามาบวช ทำให้พิธีกรรมต่างๆ เป็นการผสมปนเประหว่างพุทธและพราหมณ์ โดยเฉพาะพระพุทธศาสนาในสมัยอยุธยา ได้รับอิทธิพลของพราหมณ์เข้ามามากในเวลานั้น จึงมีเรื่องไสยศาสตร์เข้ามาปะปนอยู่มาก เน้นความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์ และอิทธิปาฏิหาริย์ ปัจจุบันพิธีกรรมถูกหยิบมากล่าวอ้างอย่างมาก ถ้าไม่มีความเข้าใจ ขาดสติ
ก็จะถูกมอมเมาได้ จากความเชื่อ ความศรัทธา... ก็จะกลายเป็นความหลง และความงมงาย.!
• ในอดีตนั้นพิธีกรรมสำคัญที่มีขึ้น ล้วนเป็นไปเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ.! และพิธีกรรมต่างๆ ที่มีในอดีต ไม่ได้มีขึ้นอย่างเลื่อนลอยไร้เหตุผล การทำพิธีกรรมจะมีการใช้ความรู้ดวงดาวทางดาราศาสตร์ และการคำนวณหาวันเวลาฤกษ์ยามที่ดี...ตามหลักโหราศาสตร์ เพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญ สมัยก่อนใช่ว่าจู่ๆ ใครคิดจะทำอะไรตามอำเภอใจ ต้องมีเหตุผลอธิบายความได้ หาไม่แล้วภัยจะมาถึงตัว โทษทัณฑ์ก็รุนแรง อย่างที่ครูอาจารย์หลายท่านได้เขียนหนังสือไว้ให้เรียนรู้ ว่าสมัยนั้นหากโหรหลวงพยากรณ์ผิดพลาดก็ต้องถูกลงโทษอย่างหนัก จึงมีแต่คนเก่งจริง ของจริง.!
• ในทางโหราศาสตร์ การเรียนรู้ตำแหน่งของดวงดาว เพื่อใช้คาดการณ์กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในอดีตเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงของบ้านเมืองและภัยธรรมชาติ ที่ต้องเฝ้าระวัง ครูอาจารย์โหรในอดีต ท่านจึงได้รจนาคำพยากรณ์ต่างๆ ทิ้งไว้ ให้ได้เรียนรู้และพิสูจน์ความถูกต้อง รวมถึงดาวมฤตยู ท่านก็มีคำกลอนกล่าวไว้ว่า..."ภัยอาเภท ทายมฤตยู" โหราศาสตร์มีหลักเกณฑ์พิเคราะห์ คำนวณและเหตุผล เพราะพิธีกรรมที่ดีก็ต้องมีองค์ประกอบที่ดี เปรียบเหมือนจะทำอาหารรสเลิศก็ต้องมีวัตถุดิบ มีเครื่องปรุงและผู้ปรุงก็ต้องมีฝีมือที่ดีพร้อม พิธีกรรมต่างๆ ก็เช่นกัน ต้องมีดวงดาวที่ดี มีการพิจารณาความสัมพันธ์ของดวงดาว ดวงดาวเวลานั้นเหมาะกับการใด.? และต้องหาวันที่ดี ฤกษ์ยามที่ดีประกอบ
• ในอดีตนั้นพิธีกรรมสำคัญที่มีขึ้น ล้วนเป็นไปเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ.! และพิธีกรรมต่างๆ ที่มีในอดีต ไม่ได้มีขึ้นอย่างเลื่อนลอยไร้เหตุผล การทำพิธีกรรมจะมีการใช้ความรู้ดวงดาวทางดาราศาสตร์ และการคำนวณหาวันเวลาฤกษ์ยามที่ดี...ตามหลักโหราศาสตร์ เพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญ สมัยก่อนใช่ว่าจู่ๆ ใครคิดจะทำอะไรตามอำเภอใจ ต้องมีเหตุผลอธิบายความได้ หาไม่แล้วภัยจะมาถึงตัว โทษทัณฑ์ก็รุนแรง อย่างที่ครูอาจารย์หลายท่านได้เขียนหนังสือไว้ให้เรียนรู้ ว่าสมัยนั้นหากโหรหลวงพยากรณ์ผิดพลาดก็ต้องถูกลงโทษอย่างหนัก จึงมีแต่คนเก่งจริง ของจริง.!
• ในทางโหราศาสตร์ การเรียนรู้ตำแหน่งของดวงดาว เพื่อใช้คาดการณ์กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในอดีตเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงของบ้านเมืองและภัยธรรมชาติ ที่ต้องเฝ้าระวัง ครูอาจารย์โหรในอดีต ท่านจึงได้รจนาคำพยากรณ์ต่างๆ ทิ้งไว้ ให้ได้เรียนรู้และพิสูจน์ความถูกต้อง รวมถึงดาวมฤตยู ท่านก็มีคำกลอนกล่าวไว้ว่า..."ภัยอาเภท ทายมฤตยู" โหราศาสตร์มีหลักเกณฑ์พิเคราะห์ คำนวณและเหตุผล เพราะพิธีกรรมที่ดีก็ต้องมีองค์ประกอบที่ดี เปรียบเหมือนจะทำอาหารรสเลิศก็ต้องมีวัตถุดิบ มีเครื่องปรุงและผู้ปรุงก็ต้องมีฝีมือที่ดีพร้อม พิธีกรรมต่างๆ ก็เช่นกัน ต้องมีดวงดาวที่ดี มีการพิจารณาความสัมพันธ์ของดวงดาว ดวงดาวเวลานั้นเหมาะกับการใด.? และต้องหาวันที่ดี ฤกษ์ยามที่ดีประกอบ
• อย่างเช่น การย้ายราศีของดาวมฤตยูในวันที่ 6 มีนาคม 2559 ขณะที่มฤตยู (O) ย้ายเข้าสู่ราศีเมษเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนัก เพราะขณะนั้นดาวมฤตยู..."มนท์" (มนท์ = คือการเดินช้า เหมือนหยุดนิ่ง) แต่จะดีหรือเสียมากน้อย ครูอาจารย์ท่านให้พิจารณาดาวอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่ง...ดาวพฤหัส (๕) ก็ประมาทไม่ได้ ถึงตายก็มากมี ท่านจึงเตือนสอนให้ระวังเช่นกัน.! และนอกจากดาวมฤตยู
• ปรากฏว่าก่อนหน้าที่ดาวมฤตยูจะย้าย ราหู (๘) ก็ได้ย้ายขึ้นสู่ราศีสิงห์ ตั้งแต่มกราคมไปรออยู่ที่ปุตตะภพของดวงเมืองและดวงโลก ดาวอังคาร (๓) เจ้าบ้านมหันตภัย ก็กลับเข้ารีสอร์ตไปร่วมกับดาวเสาร์ (๗) ที่รออยู่ในมรณะภพตั้งแต่กุมภาพันธ์ และดาวอังคารก็มนท์.!! คือเดินเกเรอยู่ในราศีพิจิกกว่าจะย้ายออกในเดือนกันยายน...กินเวลาถึง 7 เดือน.! เป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติที่จะตามมา เพราะเท่ากับดาวมฤตยู (O) อังคาร เสาร์และราหู ถึงกันหมด ซึ่งล้วนเป็นเรื่องของความสูญเสีย การทำลายล้าง
• ปรากฏว่าก่อนหน้าที่ดาวมฤตยูจะย้าย ราหู (๘) ก็ได้ย้ายขึ้นสู่ราศีสิงห์ ตั้งแต่มกราคมไปรออยู่ที่ปุตตะภพของดวงเมืองและดวงโลก ดาวอังคาร (๓) เจ้าบ้านมหันตภัย ก็กลับเข้ารีสอร์ตไปร่วมกับดาวเสาร์ (๗) ที่รออยู่ในมรณะภพตั้งแต่กุมภาพันธ์ และดาวอังคารก็มนท์.!! คือเดินเกเรอยู่ในราศีพิจิกกว่าจะย้ายออกในเดือนกันยายน...กินเวลาถึง 7 เดือน.! เป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติที่จะตามมา เพราะเท่ากับดาวมฤตยู (O) อังคาร เสาร์และราหู ถึงกันหมด ซึ่งล้วนเป็นเรื่องของความสูญเสีย การทำลายล้าง
• เมื่อดาวร้ายมีมาก ก็ต้องมีพระเอกมาช่วย ก็ต้องดู ดาวพฤหัส (๕) เพราะทางโหราศาสตร์ถือว่าเป็นดาวแห่งการคุ้มครองปกป้องที่มีกำลังเหนือดาวอื่นๆ ถ้าดาวพฤหัส (๕) ดีก็หมดห่วง แต่ปรากฏว่าดาวพฤหัส (๕) ก็มาเข้าเกียร์เดินถอยหลัง ไปกุมกับราหู (๘) กลายสภาพเป็นพฤหัสทุศีล เริ่มตั้งแต่ 9 กุมภาพันธ์ กว่าดาวพฤหัส (๕) จะเดินเป็นปกติก็ปาเข้าไปวันที่ 17 พฤษภาคม กินเวลาถึง 3 เดือนกว่า ก็เป็นช่วงที่ DSI ฮึ่มๆ อยู่ริมรั้ว
• เมื่อตรวจดูจากความสัมพันธ์ของดวงดาวดังกล่าวมา บ่งบอกว่า...ดาวมฤตยูที่เข้ามาสู่ราศีเมษ มาลบมากกว่าบวก โดยเฉพาะด้านอุบัติภัยต่างๆ ทั้งอุบัติเหตุ ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติต่างๆ และโรคระบาด ที่จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงและฉับพลัน อันเป็นคุณสมบัติของดาวมฤตยูที่ชัดเจน ดังครูอาจารย์โหรท่านได้ว่าไว้ ..."ภัยอาเภท ทายมฤตยู"
• ซึ่งเกือบจะ 1 ปี ที่ดาวมฤตยูเข้าสู่ราศีเมษ เราก็ได้เห็นแล้วว่าทั่วโลกมีสภาพอากาศแปรปรวน อุบัติภัยธรรมชาติต่างๆ รุนแรง ส่วนบ้านเราทั้งเรื่องอุบัติเหตุ ไฟไหม้ และภัยน้ำท่วมที่รุนแรงฉับพลัน แม้ว่าปีที่แล้วจะได้น้ำสะสมเยอะ แต่ปีนี้ก็วางใจไม่ได้ ร้อนก็ร้อนจัดและบางพื้นที่น้ำแล้ง พอฝนมาก็มาแบบเหลือจะรับ นี่แหละมฤตยู.!
• ส่วนที่ว่าดาวมฤตยูมีอีกด้านที่ดี คือ การค้นคว้า การพัฒนา การสร้างสรรค์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย แน่นอนว่าเรื่องนี้มีอยู่ในมฤตยูจริง แต่...แต่ ต้องเข้าใจด้วยว่า มฤตยูเล็กๆ ไม่ แต่มฤตยูต้องใหญ่ๆ และต้องใหญ่ระดับโลก อย่างเช่น การเปลี่ยนจากอนาล็อกสู่ดิจิทัล หรือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์ที่สุดในยุคปัจจุบัน ผู้ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธ ทฤษฎีควอนตัม ฯลฯ คือต้องเป็นการคิดค้นนวตกรรมต่างๆ ขึ้นใหม่ ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ ไม่ใช่การต่อยอด เรียกว่าต้องไม่เคยมีใครทำ ไม่มีในตำรา และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อโลก.!
ดังนั้น ที่มีคำถามว่า...ไหว้รับดาวมฤตยูแล้ว จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นไหม? ช่วยให้สถานการณ์กลับร้ายเป็นดีได้ไหม? เมื่อมองตามหลักโหราศาสตร์แล้ว ตอบได้ว่า...ไม่ได้ช่วยอะไร.!! เพราะในทางโหราศาสตร์ ครูอาจารย์ท่านว่าไว้ เมื่อดวงดาวมีมุมสัมพันธ์ดีร้ายต่อกันอย่างไร ก็ต้องทำหน้าที่ให้ผลเป็นไปตามนั้น
• และขอให้ทุกท่านทำอะไรอย่าประมาท.! เพราะดาวมฤตยู ที่อยู่ในราศีเมษปี 2560 จะเริ่มโคจรถอยหลังในวันที่ 30 ส.ค. 2560 และโคจรถอยหลังไปจนสิ้นปี งานนี้เหนื่อยครับท่าน.! วางแผนการใช้จ่ายให้ดี ดูแลสุขภาพให้มาก ทานอาหารตามธรรมชาติที่มีประโยชน์ สำหรับเด็กๆ เยาวชนระวังอุบัติภัย อุบัติเหตุ ออกนอกบ้านยามค่ำคืนต้องระวัง และต้องระวังภัยจากบุคคลที่ป่วยทางจิตจะมีมากขึ้น ดูแลตัวเองให้ดี.!
บทความที่น่าสนใจ
เมื่อมฤตยู "ดาวแห่งเภทภัย การเปลี่ยนแปลง" เข้าสู่ราศีเมษ
ชะตาศาสตร์ ไขรหัสพยากรณ์ ประเทศไทย ปีไก่ 2560
ชะตาศาสตร์ ไขรหัสฟ้าพยากรณ์ โชคชะตา ปีระกา 2560